4 Xperiece Design Future Trend 2019-20 ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์!!

จากการทำวิจัยกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในอีก 2-5 ปีข้างหน้า มีข้อมูลที่น่าสนใจว่าหลายเทรนด์ที่อาจจะดูไกลตัว แต่คนไทยกลับให้ความสำคัญมากขึ้น และเป็นที่ต้องการในอันดับต้น ๆ เช่นกัน ซึ่งนั่นหมายความว่าแบรนด์ที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง ก็อาจจะทำให้แบรนด์นั้นได้เข้าไปอยู่ในใจของกลุ่มเป้าหมาย วันนี้ทาง Baramizi Lab ขอแนะนำเทรนด์ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว!

Xperiece Design Future Trend 1: Well-Living Tech ภายใต้ Wellness Series คือ แนวโน้มของประสบการณ์ที่เกี่ยวพันกับการดูแลสุขภาพและสุขภาวะของมนุษย์ที่มาเกิดขึ้นในที่อยู่อาศัย ซึ่งมาในรูปแบบของการใช้เทคโนโลยี และด้วยความรู้สึกลึก ๆ ของคนที่อยากใช้ชีวิต อยากมีอิสระ ดูแลตัวเองได้ ไม่เป็นภาระผู้อื่น แต่ในทางกลับกันก็น้อยคนที่จะลุกขึ้นมาทำอย่างจริงจังจนเกิดเป็นนิสัยประจำวัน จึงมีความต้องการเชิงลึกที่ซ่อนอยู่ คือ อยากจะมีตัวช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างจริงจัง จากเทรนด์นี้เองเราสามารถสร้างประสบการณ์ให้กับแบรนด์ได้

ในชุดข้อมูลเรามีการแนะนำ Key Experiene ที่น่าสนใจ แต่ขอหยิบยกมา 1 Key Experience นั่นคือ Healthy society gadget 

ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา Gadget ที่เกี่ยวกับสุขภาพและการมี Community ของคนที่พยายามเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกายเหมือนกันนั้นมีอยู่มากพอสมควรในท้องตลาดซึ่งโดยทั่วไปจะมาในรูปแบบของอุปกรณ์ติดตัวที่สะดวกพกพา เช่น Application ในสมาร์ทโฟน, และ Wearable tech เช่น Smartwatch เป็นต้น ซึ่งความน่าสนใจของปี 2019-20 นี้ ได้เริ่มมีอุปกรณ์ที่มาในรูปแบบของของใช้ภายในบ้านแล้วที่มาทำหน้าที่คล้ายกันนี้ เช่นในกรณีศึกษาที่เราหยิบยกมา สินค้าที่ชื่อ Mirror จากองค์กร Curiouser Products Inc. ที่มาในรูปแบบของกระจกติดผนัง ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ ไม่เพียงแต่จะ Track ค่าการออกกำลังกายและเชื่อมต่อกับ Community ได้เท่านั้น เมื่อเป็นอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ที่ติดผนัง มันจึงสามารถให้ประสบการณ์ที่มากกว่าได้ เช่น การมีเทรนเนอร์ส่วนตัวพูดคุย และแนะนำท่าทางออกกำลังกายที่ถูกต้องเหมาะสมกับโจทย์ การเลือกออกกำลังกายในรูปแบบของ Classroom เรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนเดี่ยวเป็นส่วนตัวก็ได้ทั้งหมด ซึ่งทำให้ประสบการณ์การออกกำลังกายในที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งที่สนุกสนาน ทำได้อย่างถูกต้องประหนึ่งมีมืออาชีพแนะนำและสามารถเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาตนเองได้อีกด้วย

Xperiece Design Future Trend 2: Air Purifier ภายใต้ Wellness Series เช่นกัน การสร้างประสบการณ์แบบ Air Purifier คือการพัฒนาเทคโนโลยีอาคารที่ช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้น และสร้างสุขภาวะที่เหมาะสมให้กับผู้อยู่อาศัย

ในชุดข้อมูลวิจัยเทรนด์เรามีการแนะนำ Key Experiene ที่น่าสนใจ แต่ขอหยิบยกมา 1 Key Experience นั่นคือ Cleaning oxygen

Cleaning oxygen คือ การสร้างนวัตกรรมการฟอกอากาศทีมีขนาดใหญ่ ต้องการเพิ่มคุณภาพอากาศในโครงการให้ดียิ่งขึ้น เช่น กรณีศึกษา The Breathe Brick นวัตกรรมเพื่ออาคารสามารถระบายอากาศภายในได้โดยใช้พลังธรรมชาติ ซึ่งคิดค้นขึ้นโดย Carmen Trudell ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะสถาปัตยกรรม Poly San Luis Obispo ได้แรง บันดาลใจ จากเครื่องดูด ฝุ่นหี่ หมุนเวียนอากาศผ่านพายุไซโคลนภายในผนัง จุดเด่น คือส่วนกลางด้านในของอิฐ ที่นักออกแบบ ได้ติดตั้งระบบไซโคลนดักฝุ่น ที่มีการแยก อนุภาคฝุ่นละอองออกจากอากาศ ไปไว้ใน ถังพักที่ฐานของผนัง ส่วนประกอบสำคัญ สองส่วน ได้แก่ คอนกรีตอิฐ และคอปเปลอร์ พลาสติก (ข้อต่อที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล) ทั้งสองมีส่วนช่วยในการจัดเรียงอิฐและเปิด ทางให้อากาศจากภายนอกเข้าสู่รูโหว่ในตัว อิฐ ตัวอิฐคอนกรีตเองจะมีลักษณะเป็นเหลี่ยม มุม (faceted) เมื่อเรียงตัวกันจะเกิดช่องว่าง ซึ่งทำให้อากาศผ่านเข้าในระบบได้โดยตรง และยังมีช่องว่างอีกส่วนสำหรับใส่โครงสร้าง ที่เป็นเหล็ก

Xperiece Design Future Trend 3: Last Long Habitat ภายใต้ Sustainability Series แนวคิดในการออกแบบอาคารโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร ธรรมชาติตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่วางแผน ออกแบบ ก่อสร้าง และรักษาไปจนถึงการรื้อถอน สำหรับเทรนด์นี้อาจจะเป็นเรื่องที่ห่างไกลผู้บริโภคอยู่ หรืออาจจะไม่ได้เป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจเลือกซื้อ แต่ความรู้สึกของผู้บริโภคเองก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลก ในมุมของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอง ก็สามารถ แสดงจุดยืนด้านการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน ผ่านกระบวน การออกแบบสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงความยั่งยืน (Sustainable architecture) และสถาปัตยกรรมเขียว (Green architecture) ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ แบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์แล้ว ยังเป็นการสะท้อนถึงวิสัยทัศน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร
Key Experience: แนวโน้มการออกแบบอาคารที่คำนึงถึงความยั่งยืนและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถทำได้หลายวิธีการในอาคารเดียวซึ่ง จะคลอบคลุมอยู่ในพื้นที่ของการคำนึงถึงเรื่อง พลังงาน การจัดการของเสีย และการเลือกใช้วัสดุ

ในชุดข้อมูลวิจัยเทรนด์ เรามีกรณีศึกษามากมายสำหรับเทรนด์นี้ ยกตัวอย่าง กรณีศึกษาของ The Gate

อาคารที่นำเสนอต้นแบบของระบบนิเวศรูปแบบใหม่ของ Eco-system ซึ่งรวมเอา มาตรฐาน Passive house (Passivhaus) และเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้ ประหยัดพลังงานได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ Passivhaus เป็นมาตรฐานที่เข้มงวด และตั้งใจสำหรับการใช้พลังงานอย่างมี ประสิทธิภาพในอาคารซึ่งจะส่งผลให้เกิดการลดลงของของเสียทางนิเวศ ทำให้ อาคารใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษสำหรับ การทำความร้อนหรือระบายความร้อน ในพื้นที่ และออกแบบเพื่อลดการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์และรีไซเคิลขยะส่วน หนึ่งของกระบวนการต่างๆ ในระบบ หมุนเวียน แผงโซลาร์เซลล์ที่ดูเหมือนตาข่ายเหนืออาคาร การออกแบบของ Vincent Callebaut Architectures ช่วยให้สามารถรวมเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ไว้บนหลังคาท่อระบายความร้อน และผนังด้านในตามแนวตั้งไปรวมกับ ศูนย์กลางของอาคารที่สร้างเหมือนเป็นต้นไม้ขนาดยักษ์เพื่อที่จะดึงโครงสร้างของห้อง ลงสู่ชั้นใต้ดิน และสร้างธรรมชาติให้กับผู้พักอาศัย

Xperiece Design Future Trend 4: Live Life Servable Tech ภายใต้ Proptech Series จากชุดข้อมูลวิจัยใน Series นี้อาจจะไม่ได้ถูกให้ลำดับความสำคัญมากนัก แต่เทรนด์นี้เองกลับกลายเป็นที่ต้องการอันดับ 1 คือการใช้เทคโนโลยี ของ Digital platform ที่เข้ามาช่วยทั้งใน ด้านการพักอาศัย (Live) และการใช้ชีวิต (Life) ด้วย “Servable Tech” หรือเทคโนโลยี ที่ช่วยบริการผู้พักอาศัยให้เกิดความสะดวกสบาย ราบรื่น เช่น ปัญหาการตรวจซ่อมก่อนการส่งมอบโครงการป็นสาเหตุหลักที่สร้างความไม่พึงพอใจให้กับลูกค้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นแล้วการสร้างประสบกาณ์นี้อาจจะทำให้ผู้กำลังมองหาโครงการที่อยู่อาศัยในอนาคตอาจจะเกิดความสนใจก็เป็นได้

ในชุดข้อมูลวิจัยเทรนด์เรามีการแนะนำ Key Experiene ที่น่าสนใจ แต่ขอหยิบยกมา 1 Key Experience นั่นคือ Live – platform

แพลตฟอร์มการบริการที่เข้ามาอำนวยสะดวก ด้านการบริการหลังการขาย ตั้งแต่การซ่อม บำรุงต่างๆ รวมไปถึงการบริการที่อยู๋ในชีวิต ประจำวันตั้งแต่ การซักรีด, งานทำความ สะอาดบ้านต่างๆ, ระบบจดหมาย-พัสดุ บริการพื้นที่ฝากของและพื้นที่จอดรถ เช่นกรณีศึกษาของแบรนด์ในเมืองไทยที่เกิดขึ้นแล้ว คือ แสนสิริที่เป็นในรูปแบบ Sansiri Home Service Application ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกการใช้ชีวิตภายในที่พักอาศัย

นอกจากนี้ในชุดข้อมูลวิจัยเทรนด์ Xperiece Design Future Trend 2019-20 มีข้อมูลในเชิงลึกที่กล่าวถึงแนวโน้มเทรนด์ที่สอดรับกับความต้องการของผู้ที่มีโอกาสจะซื้อที่อยู่อาศัยในอนาคต ซึ่งมีอีกหลากหลายเทรนด์ประกอบกรณีศึกษาที่น่าสนใจ พร้อมทั้งมีโอกาสบางอย่างที่ภาคธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดได้

** บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ไม่ได้ขายแค่ต้วสินค้าที่เป็นที่พักอาศัย แต่ควรส่งมอบประสบการณ์การพักอาศัย ซึ่งทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง **

++ สำหรับท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลชุดข้อมูลวิจัยเทรนด์เพิ่มเติมหรือขอตัวอย่างชุดข้อมูลนี้สามารถ ติดต่อได้ที่ Line@ : @baramizi