อยากแสดงออกให้โลกรู้ว่าแบรนด์รักษ์โลก…ต้องออกแบบประสบการณ์แบรนด์อย่างไร

Sustainability Mega Trend ใหญ่ที่คนทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ กับการทำอย่างไรให้เราอยู่ในโลกได้อย่างยั่งยืน

แบรนด์ใหญ่ๆ ในโลกใบนี้ต่างก็พูดถึงแนวคิดและวิถีในการรักษ์โลกของตัวเองออกมา วันนี้อยากจะชวนเรียนรู้แนวคิดและแนวปฏิบัติของแบรนด์ไลฟ์สไตล์ด้านกีฬาอย่าง Adidas ค่ะ

ล่าสุดในช่วงก่อนฟุตบอลโลก 2018 Adidas ได้ออกแคมเปญ Manchester United Kit made from Ocean Plastic คือการเปิดตัวอุปกรณ์กีฬาที่ Co-brand กับ Manchester United ทีมฟุตบอลพรีเมียร์ลีคชื่อดัง ขวัญใจคนทั่วโลก ที่ทั้งหมดทำจากขยะพลาสติกที่เก็บได้จากทะเล

 

ความน่าสนใจของภาพและประสบการณ์ที่ปรากฏของแคมเปญนี้คือ ประสบการณ์ที่สุดล้ำผ่านการออกแบบ Product และภาพโปรโมทที่ปรากฏ…ใครว่าคนรักษ์โลกต้องดู Soft และอ่อนโยน และใครว่าของ Recycle ต้องออกมาหน้าตาไม่สวยหรือเหลือคราบของวัตถุดิบก่อนแปรรูป

ประสบการณ์สุดล้ำก็เกิดมาจากเบื้องหลังแนวคิดการรักษ์โลกได้

 

เมื่อศึกษาในรายละเอียดจะพบว่า Adidas เองไม่ได้เพิ่งเริ่มการหยิบเอา Issue ของ Sustainability นี้มาสร้างแคมเปญเป็นครั้งแรก และไม่ได้มีแนวคิดการสร้างแค่ระดับแคมเปญ

Adidas ได้ร่วมงานกับมูลนิธิ Parlay for the Oceans ที่รณรงค์เรื่องการกำจัดขยะพลาสติกออกจากธรรมชาติทางทะเลซึ่งมูลินิธินี้เปรียบเหมือน Platform ที่รวบรวมเอานักคิดนักสร้างสรรค์ในหลากหลายสาขาอาชีพที่อยากสร้างสรรค์เพื่อร่วมแก้ไขเพื่อโลกมาสร้างโปรเจคต่างๆ ร่วมกัน

Adidas พัฒนา Product และมีการ Co-branding กับอีกหลายๆ ทีมในการแข่งขัน Match สำคัญๆ เช่น Bayern Munich และ Real Madrid ตั้งแต่ปี 2016 และไม่ได้ทำเพื่อโชว์กับแบรนด์ทีมฟุตบอลอย่างเดียว แต่มีการผลิตเป็นสินค้าจริงๆ ออกขายด้วยโดยนำเอารองเท้ารุ่นคลาสสิคของ 1990s ที่ออกแบบอย่างร่วมสมัยมาผลิตขายให้กับแฟน

สำคัญที่สุดคือ Adidas มีแผนจะให้ Product ทั้งหมดภายใต้แบรนด์ Adidas เปลี่ยนเป็นทำจาก Waste Plastic ภายในปี 2024

เรามาลอง Recap กันหน่อยกับการสร้างประสบการณ์แบรนด์เพื่อบอกให้รู้ว่าเรารักษ์โลก..

1. ไม่จำเป็นต้องเรียบง่ายและพอเพียง – การร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเมกะเทรนด์ Sustainability ไม่จำเป็นต้องเรียบง่ายเสมอไป เราสามารถสร้างประสบการณ์แห่งความล้ำ นำสมัย และสุดเท่ไปด้วยได้เสมอ และใช้เทคโนโลยีฉลาดๆ ล้ำๆ มาทำให้โลกดีขึ้นสมกับเป็นคนยุคใหม่

2. ไม่เป็นแค่แคมเปญ แต่เป็นแนวคิดหลักของแบรนด์เป็นวิส้ยทัศน์แห่งอนาคต – การเป็นส่วนร่วมในขบวนของ Sustainability ไม่จัดเพียงแค่เป็นแคมเปญ แต่กลายเป็นแนวคิดหลักของแบรนด์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้มนุษย์และสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนจริงๆ

3. หาแนวร่วมคนเท่ๆ คูลๆ ที่รักษ์โลกไปด้วยกัน – Co-Branding เป็นอะไรที่ทรงพลังมากในโลกยุคนี้ การ Co-Branding ร่วมกันใน Agenda ของการทำความดีเพื่อผู้คนยิ่งทำให้เกิดพลังที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้น และช่วยสร้างพลังบวกกระตุ้นให้สาวกของแต่ละแบรนด์ตระหนักถึงปัญหาโลกไปด้วยกันจึงทำให้แบรนด์ก็วิน สาวกก็วิน โลกก็วิน 

วันนี้แนวคิดที่ให้คุณค่ากับลูกค้าและแก้ปัญหาให้กับผู้คน เป็นแนวคิดที่เหมาะมากที่จะสร้างแนวร่วมและการทำอย่างจริงจังไม่ใช่ฉาบฉวยเพื่อสร้างกระแสหรือเพื่อ CSR เป็นสิ่งที่คนทั้งโลกตั้งตารอและถามหาจากแบรนด์ที่พวกเขารัก เพราะพวกเขาอยากจะรักแบรนด์มากขึ้นไปอีก

ร่วมรังสรรค์โลกใบนี้ให้น่าอยู่ขึ้นโดยเอาความเก่ง ความฉลาด ความสร้างสรรค์ เทคโนโลยี การออกแบบ มารวมพลังทำให้โลกของเดินไปข้างหน้าอย่าง Sustainable อย่างแท้จริงกันนะคะ

Credit:

www.dezeen.com/2018/05/18/adidas-reveals-latest-manchester-united-kit-made-from-parley-ocean-plastic/

www.dezeen.com/2017/10/05/adidas-originals-unveils-its-first-shoe-made-with-parley-ocean-plastic/

www.parley.tv/#fortheoceans

#BaramiziLab #EXPerienceDesignResearch #BaramiziGroup #Megatrend #SustainabilityTrend