TREND FAST TRACK : Tourism Trend THE QUARANTOURISM INNOVATION Trend : เทรนด์นวัตกรรมการท่องเที่ยวที่คุณเที่ยวได้แม้ตัวจะอยู่บ้าน

จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ในหลายประเทศ และหลายเมืองมีมาตรการปิดประเทศ-ปิดเมือง ควบคุมการเดินทางเข้า-ออก รวมถึงการที่ประชาชนจะออกไปทำกิจกรรมในที่สาธารณะ การรวมตัวกันของคนจำนวนมากคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งมีการปิดสถานศึกษา โรงภาพยนตร์ ร้านค้า ยกเลิกคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ต่างๆ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก ผู้คนต้องปฎิบัติตนที่จะต้องกักตัวอยู่แต่ภายในบ้าน ทำให้สภาพจิตใจของคนที่ต้องถูกจำกัดขอบเขตของพื้นที่ หรือแม้แต่การออกไปข้างนอกยังต้องเว้นระยะ Social distancing ที่ต้องระมัดระวังและความระแวงจนคนเกิดความรู้สึกอัดอั้นโหยหาอิสระที่เกิดจากการท่องเที่ยว ธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการต่างๆ จึงต้องหามองหาโอกาสที่คนกำลังอัดอั้นที่ไม่ได้ท่องเที่ยว ไม่ได้พบเจอผู้คน สร้างรูปแบบธุรกิจแบบใหม่ๆ ที่สามารถสร้างรายได้ในช่วงนี้ คิดค้นวิธีการที่สร้างสรรค์ โดยใช้เทคโนโลยีและผนวกรวม 5G และ VR/AR เปิดมุมมองการมองเห็นให้คนที่กักตัวอยู่บ้านได้สัมผัสประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่ตัวอยู่บ้านแต่ใจออกไปเที่ยวแล้ว


สำหรับ Trend Fast Track สัปดาห์นี้จะพาทุกท่านเจาะลงไปในวงการธุรกิจการท่องเที่ยวที่สร้างสรรค์รูปแบบธุรกิจการท่องเที่ยวให้สามารถสร้างโอกาสแม้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิค ด้วยแนวโน้มที่มีชื่อว่า The Quarantourism Innovation นวัตกรรมการท่องเที่ยวที่คุณเที่ยวได้แม้ตัวจะอยู่บ้าน ซึ่งจะมี case Study ที่น่าสนใจอะไรบ้างลองไปดูกันครับ

 

1. เที่ยวอีสเตอร์ได้ โดยที่คุณอยู่บ้าน

ในทุกๆปี เมื่องเทศกาลอีสเตอร์มาถึง ชาวอังกฤษจะพร้อมใจกันออกไปเฉลิมฉลองกันเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีอากาศดีที่สุดในรอบปี แต่เนื่องจากวิกฤตไวรัสโคโรนาทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน FCO จึงได้ออกมาให้คำแนะนำวิธีการเที่ยวรูปแบบใหม่ที่สร้างสรรค์ เช่น ชมการเล่นสกี ชมการเที่ยวเมืองนอร์เวเจียนโดยรถไฟ ชมเรือสำราญหรูหราขนาดใหญ่จากมุมเสมือนจริงผ่าน Youtube ที่ให้ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นได้จากที่บ้าน หรือจะเปิดข่อง Travel Oregon Youtube เพื่อจิบไวน์ นั่งข้างกองไฟท่ามกลางบรรยากาศหิมะไปพร้อมๆกับคนในคลิป นอกจากนี้ยังสามารถชมะครเวทีบรอดเวย์ากโรงภาพยนตร์แห่งชาติผ่านยูทูปโดยจะเปิดให้ชมทุกวันพฤหัสตอน 1 ทุ่มตรง เป็นต้น
Credit: https://www.independent.co.uk/travel/news-and-advice/coronavirus-lockdown-easter-holidays-virtual-travel-tours-livestream-a9455776.html

2. ล่องเรือและเที่ยวที่ Venice ผ่าน Virtual Tour

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ทำให้เมืองเวนิสที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอิตาลีกลายเป็นเมืองที่เงียบสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คลองที่เคยมีเรือกอนโดลาที่พานักท่องเที่ยวชมเมืองกลายเป็นคลองที่นิ่งเงียบ เนื่องจากการหยุดเดินทางระหว่างประเทศเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีทางเลือกใหม่ๆสำหรับการท่องเที่ยวด้วยวิธีการ Virtual Tour ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่ทำให้นัก่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมเมืองเวนิสผ่านประสบการณ์การเที่ยวในรูปแบบใหม่ เช่น การชมเมืองเวนิสและคลองอันเงียบสงบผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่รอบเมืองผ่าน Youtube เรียนรู้วิธีการทำอาหารแบบเวนิสผ่านคลิปสอนทำอาหารจากคนพื้นเมือง ชมภาพยนตร์จากโรงละครของเมืองผ่านออนไลน์ และยังสามารถสั่งซื้อของที่ระลึกจากเวนิสอย่างลูกปัดแก้วมูราโน่ได้จากที่บ้าน เป็นต้น

Credit: https://www.independent.co.uk/travel/48-hours-in/venice-italy-travel-live-stream-virtual-tour-home-a9453191.html

3. Airbnb เปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่คุณสามารถทำกิจกรรมกับ Host ได้แม้คุณจะอยู่บ้าน

การแพร่ระบาดอย่างหนักของ Covid-19 ในหลายพื้นที่ทั่วโลก ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวถูกยกเลิกเกือบจะทั้งหมด เพราะความกลัวโรคระบาด ล่าสุด Airbnb ที่ประกาศให้ผู้จองที่พักก่อนหน้านี้สามารถขอเงินคืนได้ 100% (ถ้าหากจองที่พักก่อน 14 มีนาคม และมีช่วงเวลาเข้าพักตั้งแต่ 14 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม) ก็ได้รับผลกระทบอย่างสาหัสเช่นเดียวกับเว็บไซต์จองที่พักออนไลน์อื่น อย่างไรก็ดี  Airbnb ก็ไม่ยอมแพ้ ล่าสุดได้เริ่มทดลองประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยว นั่นก็คือเที่ยวออนไลน์กันแล้ว โดยที่ผ่านมา ลูกค้า Airbnb สามารถจองการทำกิจกรรมในพื้นที่เดียวกับที่พักได้ เช่น จ้างไกด์พาชมเมือง, พาไปกินอาหารท้องถิ่น, สอนทำอาหารท้องถิ่น, กิจกรรมดำน้ำดูปะการัง และอื่น แต่ในเวลาที่เราไม่สามารถเดินทางไปทำกิจกรรมเหล่านั้นได้ Airbnb ก็นำกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง มานำเสนอใหม่ในรูปแบบออนไลน์ สำหรับตัวอย่างกิจกรรมไฮไลท์ที่ Airbnb ยกขึ้นมาโชว์มีตั้งแต่ นั่งสมาธิกับพระญี่ปุ่น ที่โอซาก้า, ทำพาสต้าเวอร์ชันคุณยายที่อิตาลี, สอนทำขนมอบที่ซานฟรานซิสโก, กิจกรรมสอนทำหมั่นโถวที่สิงคโปร์, กิจกรรมดูดวงที่นิวยอร์ก, คลาสสอนทำอาหารที่โมร็อกโก เป็นต้น ซึ่งเมื่อผู้ใช้งานคลิกเข้าไปยังกิจกรรมที่ตนเองสนใจแล้วจะพบว่ามีราคาค่าเข้าร่วมปรากฏอยู่ เช่น นั่งสมาธิกับพระญี่ปุ่นราคา 311 บาท หรือทำหมั่นโถวราคา 800 บาท เป็นต้น การนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบใหม่นี้ ถูกเสนอโดยบรรดา host ที่จัดกิจกรรมปกติอยู่แล้ว แต่เนื่องจากไม่มีการท่องเที่ยว จึงทำให้ host ทั้งหลายติดต่อ Airbnb มาเพื่อให้จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวทางออนไลน์แทน และ Airbnb เห็นด้วยซะงั้น จนนำไปสู่ธุรกิจรูปแบบใหม่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้

Credit: https://news.airbnb.com/th/airbnb-launch-online-experience/


4. Audi
ใน Australia เปิดตัวภาพยนตร์ยาวถึงสี่ชั่วโมงที่พาคุณไปขับรถเที่ยวบนSocial Network

Audi สร้างภาพยนต์ยาว 4 ชั่วโมงชื่อว่า “The Drive” และเปิดตัวภาพยนตร์โปรโมทรถ Audi A6 Sedan ยาวถึงสี่ชั่วโมช่องทางออนไลน์เพื่อให้ผู้คนที่ถูก lockdown จากไวรัสโควิดได้รับรู้ถึงการเดินทางอีกครั้ง โดยภาพยนต์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยมุมกล้องหลายมุม ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศการของการขับท่องเที่ยวรถจริงๆ “The Drive” เป็นแนวคิดที่จะช่วยให้ผู้ชมภาพยนต์ได้สัมผัสความสุขจากการเดินทางบนถนน และหวังว่าจะช่วยให้คนออสเตรเลียได้รับความสุขและสงบทางจิตใจในช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ Covid ในครั้งนี้
Credit: https://www.thedrum.com/creative-works/project/we-are-social-audi-the-drive

5. Coronavirus: Virtual pub ใน Australia กำลังเปิดรับพนักงานบาร์เพื่อต้อนรับสมาชิกผ่าน Social Network

The Virtual Pub Facebook page "bar staff"

Ray Callcut and his partner Susan

อดีตเจ้าของที่ได้จัดตั้งผับออนไลน์ขึ้นทาง facebook โดยการทำงานคือ Jo Bowtell จะเปิดโหมด Live และไมค์ไว้ทั้งคืนโดยมีสมาชิกโพสต์ภาพและเครื่องดื่มของตนเอง และมันได้รับความนิยมอย่างมากเพราะมีคนหลากหลายอายุมาเข้าร่วมด้วย ทั้งวัยรุ่นรวมไปถึงคนแก่ และในทุกๆคืนก็จะมีการแสดงต่าง ไม่ว่าจะเป็นดนตรีและตลก มันเหมือนกับการไปผับแต่แค่ใช้ชีวิตอยู่ที่ห้องนั่งเล่น และตอนนี้ผับออนไลน์และกำลังรับสมัครคนดูแลเพราะมีคนเข้าใช่บริการมากถึง 12,000 คน

Credit: https://www.bbc.com/news/uk-england-derbyshire-52061947


จาก Case Study  ที่กล่าวมาทั้งหมดเราจะพบว่าหลายๆสถานที่ได้หันมาใช้นวัตกรรมทางด้าน Virtual และ Social Network สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบเสมือนจริงและเก็บรายได้จากการเข้าชมในรูปแบบ ทั้ง Donate  และเสียค่าเข้าชมในราคาที่คนทั่วไปสามารถที่จะจ่ายได้ ซึ่งวิธีการนี้น่าสนใจตรงที่หลังจากสถานการณ์โควิดผ่านพ้นไปแล้ว คนที่เที่ยวแบบ Virtual และ Social Network อาจจะอย่างสัมผัสประสบการณ์แบบ Reality มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากให้สถานการณ์นี้สิ้นสุดในเร็ววันนี้จะได้ออกไปเที่ยวกันจริงๆ ซะที


🔥 Trend Fast Track เทรนด์สดใหม่เสิร์ฟร้อน 🔥 โดย Baramizi Lab ศูนย์วิจัยคอนเซปต์แห่งอนาคตและการออกแบบ เราได้ทำการ Spot กรณีศึกษา (Case Study) จากข่าวสารแหล่งต่างๆ และศึกษาเทรนด์การออกแบบประสบการณ์เด็ดๆ อะไรที่แบรนด์พร้อมใจกันสร้าง และ Launchออกมาทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์

#FutureLabResearch #ResearchForBusiness #FutureTrendResearch#TrendFastTrack2020 #WisdomDrivetheFuture