TREND FAST TRACK : Elevated Mindset Together สร้างแรงกระเพื่อมในสังคม เพื่อยกระดับสังคมและจิตใจ

ในโลกยุคใหม่ที่การมาถึงของเทคโนโลยี ทำให้ชีวิตของเราง่ายดายขึ้นก็จริง แต่กลับทำให้เราหลงลืมอะไรไปหรือเปล่า และบางครั้ง การละเลยบางสิ่งบางอย่าง ก็มีส่วนทำให้สังคมของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงก็เป็นได้ ทำให้แบรนด์ต่างๆ เริ่มขยับกลยุทธ์ หาวิธีการในการนำเสนอแบรนด์ของตัวเอง โดยสะท้อนมุมมองที่คำนึงถึงสังคมมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างความรู้จักและคุ้นเคยกับกลุ้มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินกลยุทธ์เหล่านี้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น และเมื่อมีแบรนด์ต่างๆ ใส่ใจสังคมมากขึ้น ก็ทำให้เกิดหมุดหมายใหม่ที่สร้างแรงกระเพื่อมให้สังคม เพื่อยกระดับสังคมและจิตใจให้ดียิ่งขึ้น

Trend Fast Track วันนี้ เราจะพาไปดูวิธีการนำเสนอของแบรนด์ต่างๆ ที่สะท้อนความใส่ใจในสังคม จากปัญหาเล็กๆ น้อยๆ สู่การพัฒนาสังคมได้อย่างไรบ้าง

 

1.Yellow May (Don’t / The Message Can Wait)

กระตุ้นให้ตระหนักถึงเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน

[บราซิล] ทุกเดือนพฤษภาคมของประเทศบราซิล จะเป็นช่วงเวลาแห่งการรณรงค์ให้ตระหนักถึงอุบัติเหตุของการใช้รถใช้ถนนที่มีอัตราความสูญเสียอยู่ในระดับที่สูง โดยเรียกแคมเปญนี้ว่า ‘Yellow May’ ซึ่งบริษัทต่างๆ ในบราซิลก็มักจะออกแคมเปญเพื่อสอดรับกับแนวคิดดังกล่าว โดยในปีนี้ ผมหยิบยกมาสองแบรนด์มาให้ดูกัน

แบรนด์แรก คือ Tai Motors (Hyundai) ที่ออก Print Ads. พื้นสีเหลืองให้เข้ากับเทศกาล กับรูปหัวเข็มขัดนิรภัยที่ฉลุลายแตกต่างกันออกไป ทั้งรูปโทรศัพท์มือถือ กับคำโปรยว่า Don’t get distracted รูปป้ายจำกัดความเร็ว กับคำว่า Don’t speed และ รูปขวดที่เดาได้ว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กับคำว่า Don’t drink and drive

ส่วนอีกแบรนด์หนึ่ง มาในลักษณะทั้ง Print Ads และคลิปสั้นๆ ที่ยังคุมโทนพื้นหลังสีเหลืองไม่ต่างกัน กับแคมเปญ The message can wait ของ KSEG หนึ่งในบริษัทที่ประกอบธุรกิจประกันในบราซิล โดยบอกเล่าในลักษณะของตัวอย่างคลิปเสียงที่มีกราฟเส้นสอดคล้องกับเส้นชีพจร บอกเล่าในทำนองว่า ข้อความที่ส่งมาจากแอปพลิเคชั่นต่างๆ ไว้รอฟังทีหลังก็ได้ ก่อนที่ชีพจรของคุณจะดับลงจากความประมาท

ทั้งสองแบรนด์ ถือว่าเป็นการออกแคมเปญที่ตระหนักต่อสังคม แต่สามารถเกิดผลดีกับองค์กรได้ เพราะมีความสอดคล้องกับสินค้าและบริการของบริษัทอย่างชัดเจน และสามารถสร้างการรับรู้จากกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย

2.#RulesDontApply (No Alcohol. No Problem.) by Savanna

เมื่อกฎเปลี่ยนไม่ได้ เราจึงต้องปรับเพื่อตัวเองและสังคมที่ดีขึ้น

[แอฟริกาใต้] บริษัทผลิตเครื่องดื่มไซเดอร์ผสมแอลกอฮอล์ ออกแคมเปญ #RulesDontApply รณรงค์ให้นักดื่ม ดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ และเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มด้วยเครื่องดื่มไซเดอร์ชนิดใหม่ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ด้วยโฆษณาที่แสดงให้เห็นถึงอาชีพที่จำเป็นต้องใช้สติในการทำงานทั้งตำรวจ และนักบินก้สามารถดื่มเครื่องดื่มไซเดอร์รสเลมอนสูตรใหม่ได้ โดยที่ยังดื่มด่ำกับอรรถรสของ Savanna ได้เหมือนเดิม เพราะกฎหมายเกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่สามารถแก้ไขได้ นักดื่มจึงต้องปรับตัวเพื่อตัวเองและสังคมที่ดียิ่งขึ้น

3.#JeepDemocracy

เมื่อความห่างไกลทำให้ประชาธิปไตยเกินเอื้อม

[อินเดีย] อินเดียเป็นประเทศที่ประชาชนบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงประชาธิปไตยได้อย่างง่ายดายเพราะความห่างไกล ดังนั้น แม้ว่าเขาเหล่านั้นจะได้สิทธิในการเลือกตั้งก็ตาม แต่ระยะทางห่างไกลหลายสิบกิโลเมตรที่ต้องเดินเท้าเพื่อไปเข้าคูหา ก็ทำให้บทสรุปของการเลือกตั้งที่ผ่านมาคือต้องปล่อยให้สิทธิและเสียงของตัวเองหมดไปอย่างไร้ค่า

Jeep แบรนด์รถยนต์ชื่อดังของโลกจึงออกแคมเปญเพื่อยกระดับสิทธิและเสียงของประชาชนในอินเดียที่อยู่ห่างไกล ด้วยการสร้าง #JeepDemocracy นำรถไปรับประชาชนเพื่อมาเข้าคูหา ไม่ให้สิทธิในระบอบประชาธิปไตยของเขาเหล่านั้นต้องสูญหายไป

 

4.#NOEXCUSE

แอลกอฮฮล์ทำให้ดูกีฬาสนุกขึ้นก็จริง แต่ต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา

[แอฟริกาใต้] Carling แบรนด์ผู้ผลิตแอลกอฮอล์จากฝั่งยุโรป ที่เป็นสปอนเซอร์ให้กับฟุตบอลรายการใหญ่ในแอฟริกาใต้ ตระหนักถึงปัญหาการทำร้ายร่างกายคู่รักของผู้ชายแอฟริกาใต้ โดยบางส่วนเกิดขึ้นหลังจากการรับชมฟุตบอลนัดสำคัญ ซึ่งมักจะมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะรับชม และเกิดการทำร้ายร่างกายหลังจากนั้น ทำให้ Carling ออกแคมเปญให้ผู้หญิงเข้ามาร่วมร้องเพลงที่รณรงค์การไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงในช่วงก่อนจะเปิดสนามฟาดแข้ง ทำให้สังคมตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และยังส่งผ่านแคมเปญนี้ไปยังสื่อโซเชียล รวมถึงบรรจุภัณฑ์อีกด้วย

5.Starbucks opens its first sign language store in China

สตาร์บัคส์เปิดร้านกาแฟที่ผู้ให้บริการเป็นผู้พิการทางการได้ยินทั้งร้าน

[จีน] สตาร์บัคส์เปิดร้านกาแฟแห่งแรก ที่ผู้ให้บริการทั้งหมดเป็นผู้พิการทางการได้ยิน พร้อมกับออกแบบให้การสั่งออเดอร์ของลูกค้าสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้นผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นการยกระดับสังคมที่ทำให้ผู้พิการทางการได้ยินได้รับโอกาสที่ดีในการสร้างอาชีพ และไม่ถูกกีดกันอีกต่อไป

 

ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมหยิบยกมาเล่าในสัปดาห์นี้ สะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ต่างๆ มีความใส่ใจในสังคมกันมากยิ่งขึ้น และอาจจะสร้างความสนใจให้กับสังคมในวงกว้าง เพื่อตอบแทนให้โลกใบนี้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น และผลตอบแทนที่แบรนด์ต่างๆ ได้รับก็คือการรับรู้จากกลุ่มเป้าหมายไปพร้อมๆ กันด้วยนั่นเอง

 

🔥 Trend Fast Track เทรนด์สดใหม่เสิร์ฟร้อน 🔥 โดย Baramizi Lab ศูนย์วิจัยคอนเซปต์แห่งอนาคตและการออกแบบ เราได้ทำการ Spot กรณีศึกษา (Case Study) จากข่าวสารแหล่งต่างๆ และศึกษาเทรนด์การออกแบบประสบการณ์เด็ดๆ อะไรที่แบรนด์พร้อมใจกันสร้าง และ Launch ออกมาทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์

 

#FutureLabResearch #ResearchForBusiness #FutureTrendResearch

#TrendFastTrack2019 #WisdomDrivetheFuture